วันศุกร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑

เรื่องเล่าจากโรงเรียนถ่ายภาพ


กว่าจะรู้ตัวว่าฝีมืออันไม่พัฒนาเรื่องการถ่ายภาพของผมคงที่มา ให้คนอื่นๆวิจารณ์ไปมาเป็นเวลานานนั้น ผมก็เล่นอยู่กับกล้องพวกนี้มาได้ 3ปีกว่าๆแล้ว อันที่จริงครั้งแรกที่ผมเริ่มชอบการถ่ายภาพ คือครั้งที่ผมไปเที่ยวกับพี่ๆเพื่อนๆ(ที่ผมเองก็ยังไม่ค่อยสนิทมาก)ที่เชียงใหม่ กล้องดิจิตอลคอมแพ็คตัวเล็กของเพื่อนอยู่ในมือผม และผมเองก็กดมันไม่ยั้ง ตรงนั้นดี ตรงนี้สวยเขาว่ากันเราก็กดๆตาม แต่ซักพักผมก็หามุมมองของผมเอง เมื่อดูในกล้องมันใช้ได้ พี่คนหนึ่งบอกว่าหามุมแปลกๆเก่งดี น่าจะลองถ่ายรูปไปเลยนะ?!

หลังกลับมาจากที่ไปเที่ยว ผมเอารูปไปอัดขยาย ปรากฎว่ารูปทุกรูปแตกลายงาไปหมด เม็ดสีแตกพร่าภาพทุกภาพน่าเกลียดและดูไม่ได้ เหตุผลนะหรือ เพราะผมปรับอะไรไม่เป็นเลย กว่าจะรู้ตัวว่าปรับอยู่ที่โหมด s(สำหรับส่งทางเมลหรือโชว์ทางคอม)นั้นผมก็ถ่ายรูปใบสุดท้ายไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่นั้นผมก็บอกกับตัวเองว่าจะต้องเก็บความทรงจำดีๆ วิวสวยๆ รอยยิ้มและบันทึกการเดินทางด้วยการถ่ายภาพให้ได้

ไม่นานผมก็เริ่มถ่ายภาพมากขึ้น มากขึ้นจนเริ่มหลงรักมัน มันคงเป็นอะไรที่ยากมากนะ รูปถึงออกมาได้สวยเหมือนที่เราเห็นบ่อยๆว่าคนนั้นถ่ายสวย คนนี้ถ่ายดี จนกระทั่งผมเองได้พบเจอพี่ที่ทำงาน เขาแนะนำให้ลองไปสมัครเรียนที่"วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร"ดู เพราะพี่เขาเคยเรียนมาก่อน ก็ดีนะ...

เคยคิดนะครับว่า การถ่ายภาพมันอยู่ที่มุมมองของคนถ่ายและคนดูรูปถ่าย ต่อให้ถ่ายสวยงามเพียงใด หากคนมองดูไม่ชอบ รูปก็จะไม่มีวันสวยขึ้นมาได้...แต่ผมคิดผิด

มันมีอะไรมากกว่าการกดชัตเตอร์นะ แม้ว่ากล้องดิจิตอลสมัยนี้จะประมวลผลให้ใช้งานง่ายเพียงใด แต่หากเราไม่เข้าใจเรื่องอื่นๆมันก็ทำให้ออกมาเป็นเพียงแค่ภาพถ่ายทั่วไป ไร้เรื่องราวเท่านั้น ผมเลยไปสมัครเรียนครับ

ตอนแรกคิดไว้ว่าจะลงเรียนการถ่ายภาพตามองค์ประกอบ ซึ่งนั่นก็คือการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลนั่นเอง แต่เนื่องจากอาจารย์เสียงดังจนผมเองโดนกระตุ้นโสตประสาทว่าให้ ลงเรียนการถ่ายภาพเบื้องต้นด้วยซิ ดีนะ ถูกด้วย ไม่รู้ว่าเห็นแก่เงินที่ถูกหรือรักการถ่ายรูปกันแน่ ผมจึงลงเรียนควบกันไปทั้งคู่

แต่โดยส่วนใหญ่นะครับ ผมก็แลกเวรเพื่อมาเรียนนะ เวลาไหนพอจะไปเรียนไหวผมก็จะไปให้ได้ แต่ครั้งไหนที่ไม่ไหวก็จะพยายามโทรตามถามเรื่องเรียนจากเพื่อนๆที่รู้จัก ผมเลือกลงเรียนภาคค่ำไว้ครับ เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นช่วงที่ง่ายและดีที่สุดที่จะหาเวลามาเรียนได้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับ ซักพักผมลองมาเรียนภาคเช้า ความรู้สึกแปลกไป...

ใช่ว่าผมจะไม่รู้จักใครๆในภาคค่ำนะ มันเหมือนเราเริ่มๆหายเกร็งๆกันไป แต่ยังไม่สนิทมากเท่าไหร่ประมาณนั้นไงครับ ผมก็เลยได้น้องสนิทมาหนึ่งคน น้องคนนี้เรียนหมอที่เดียวกับที่ผมทำงานนะ เก่งทีเดียวเชียว ขยันหางานหาการให้ตัวเองทำ พูดคุยกันซักพักก็รับรู้ได้นะครับว่าน้องเขามีความคิดที่ดี คุยสนุกและก็ดูเด็กๆเหมือนนักศึกษาทั่วไป เราสนิทกันจากที่เรียนถ่ายภาพและก็คุยเอ็มเป็นพักๆนะ ซึ่งมันก็เท่ากับว่าผมเองได้เพื่อนเพิ่มมาจากภาคค่ำหนึ่งคน(น้อยจัง!)และผมก็ผันตัวเองลองไปเรียนเช้าดูบ้าง

ภาคเช้าเป็นอะไรที่เงียบเหงานะ ผมว่า คนเรียนน้อยมาก 7-8 คนได้นะครับในนั้นก็มีสว.ร่ำเรียนอยู่ด้วย (สว = สูงวัย ไงครับ อิอิ)แต่เมื่อผมก้าวเข้าไปเรียน ประโยคแรกที่ได้ยินคือ ยินดีต้อนรับนะ ชื่ออะไร เรียนอะไร ไม่ทันตรงไหนบ้าง...ดีมั้ยนะกับคนที่ไม่เคยรู้จักกัน แน่นอนครับ มันเกินบรรยายเลยนะ เพราะปกติผมเองก็ไม่เคยที่จะเริ่มต้นผูกสัมพันธ์ใครก่อน เหตุผลก็คือว่า ผมค่อนข้างขี้อายนะ ไม่ได้ถือตัวเย่อหยิ่งหรอกนะครับ แต่มันออกจะเกรงใจไม่กล้ามากกว่า (แต่ถ้าสนิทแล้วจะคนละเรื่องล่ะทีนี้ ^_^)

ในภาคเช้าจะมีลุงอาคมกะลุงตี๋ คนแรกมาดแมนตามสุภาพบุรุษจากที่เคยอยู่เยอรมันมากก่อน กล้องไรก้าไฮโซใช้ได้ดี มือแม่นยำ คนสองขี้เล่น พูดคุยได้ตลอด คุยสนุกดีนะ ผมว่าอยู่กะแกแล้วรู้สึกมีคุณลุงคอยพูดคุยซักถามตลอด สนุกดี แกจะทักผมทุกครั้งเลย ไม่เคยพลาด นอกจากนี้ก็มีพี่ไนซ์ สาวหมวยสวยอึ๋ม(ป่าวหว่า?) มือใหม่เล่นกล้องแต่สงสัยตลอด อิอิ พี่ดี(ทุกคนเรียกหนูดี!?) ไม่เคยเชื่อเลยว่าจะมีผู้หญิงที่เก่งมากๆได้ขนาดนี้ งานบ้านงานเรือนกวาดเรียบ เรื่องพูดคุยติดต่อยกให้คุณเธอเขาเลย พี่จิงสาวหน้าสวยของเราในชั้น เหลือเชื่อว่าหน้าอ่อนมากๆ น่ารักจริงๆ อิอิ และนอกจากนี้ยังมีพี่ปู หลังๆผมไม่ค่อยเจอแก น้านีสว.หญิงส่งเข้าประกวด แกน่ารักดีนะ ขี้เกรงใจน่ะ อ้อ เกือบลืมและนายชัย หนุ่มไฮเปอร์ของพวกเรา ถ่ายรูปมาพอๆกะผมเลย แล้วก็ถ่ายเก่งกว่าและขยันถ่ายกว่าด้วย เป็นผู้รอบรู้และพึ่งพิงของชาวรอบเช้าเขาล่ะ

ไม่รู้นะ ผมว่าผมเริ่มสนิทกับรอบเช้ามากขึ้นๆๆเรื่อย อาจด้วยลักษณะเวรที่เอื้อให้ผมได้เรียนรอบเช้ามากกว่าก็เป็นได้นะครับ แต่เหนืออื่นใด ผมว่ามิตรภาพมันก่อตัวขึ้นทีละน้อยๆนะ ทุกคนต่างที่ต่างงานต่างวัยกัน แต่ความเกื้อกูลมีมากเหลือเกิน จริงๆมันก็มีรายรอบตัวผมไปหมดนะผมว่า แต่ส่วนหนึ่งผมได้สัมผัสตรงนี้ ตรงที่ๆผมเองได้พบเจอคนที่ชอบสิ่งเดียวกัน ช่วยเหลือกันมีความสุขดีนะครับ แต่ถึงตรงนี้ใช่ว่ารอบค่ำจะทำให้ผมเซ็งหรือไม่ชอบนะ ประเด็นมันอยู่ตรงที่ครั้งหลังๆผมไปแล้วมันเหมือนต่อไม่ค่อยติดน่ะ ก็แค่นั้นเองครับ ผมจึงเลือกที่จะไปเรียนเช้ามากขึ้นๆนะ

อ้อ!ผมเกือบลืมอาจาย์แม่ที่ผมรักท่านมากๆเช่นเดียวกัน (แต่ลูกศิษย์ท่านเยอะเหลือเกิน เยอะมากจนไม่รู้ว่าเราเป็นลูกคนที่เท่าไหร่อ่ะ อิอิ) ใช่ครับอาจารย์สุมาลี อาจารย์สอนเรื่องกล้องฟิล์ม ท่านเก่งมาเลยนะ ตอนแรกที่ผมเห็นว่าอาจารย์ผู้หญิงสอนเนี่ยะ ผมนะนึกไม่ออกเลยว่าจะเรียนได้ไง แต่มันหาได้เป็นเช่นนั้นครับ อาวุธที่ท่านใช้อยู่ตลอดเวลาคือเสียงอันทรงพลังเข้าขั้นเทพทีเดียว แต่เวลาท่านไม่สบายและไม่พูดมันก็แปลกๆนะ ห้องเงียบเกินไปไม่มีอะไรกระตุ้นประสาทเลย ท่านน่ารักและเป็นกันเองมากครับ

เวลาได้พาผมเดินมาแวะข้างทางตรงนี้นานมาก นานจนผมอยากจะหยุดตัวเองไว้ตรงนี้ หากแต่เมื่อผมมองย้อนกลับไปและมองดูหนทางข้างหน้า หนทางที่เขาเรียกว่าจุดหมาย มันช่างไกลแสนไกลเหลือเกิน ผิดไหม? หากการแวะพักข้างทางจะนานเกินไปจนดูเหมือนไม่ได้สนใจเดินทางต่อ ผิดไหม?ถ้าผมพบกับมิตรภาพที่ไร้เดียงสา ไร้มารยาใส่กัน แล้วเกิดพอใจที่จะหยุดพักซักระยะ...แต่ซักวันที่ใกล้เข้ามา พวกเรารอบเช้าคงต้องแยกย้ายกันไปเช่นเดิม ได้แต่หวังว่าเราอาจออกจากจุดพักข้างทางตรงนั้นแล้วเดินเคียงข้างกันไปซักพัก ให้ความผูกพันหมุนเกลียวแน่นกว่านี้อีกสักหน่อย เพื่อต่อไปมันจะคลายเกลียวแต่สร้างปมที่ยึดพวกเราไว้ด้วยกันตลอดไป...

๙ ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความรู้สึกดีๆ ของพี่ มีไว้ให้กับคนดีๆเช่นเธอ เช่นกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากดู Coffee Prince จังอ่ะ...

อุอุ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เด็กโหง่ยแอบเหงาลึกๆนิ พอๆกันเลยเนอะ ฮา

ว่าแต่คนที่อยากดู coffee prince นี่เมากาแฟมาจากที่ไหนเป่าเนี่ย เหอๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แม้ว่าจุดหมาย มันช่างไกลแสนไกล...ก็ยังดีกว่าไม่มีจุดหมายไปใช่หรือ อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าเรารู้ว่าเราต้องการอะไร

ดีใจด้วยนะกับมิตรภาพที่ไร้เดียงสา ไร้มารยาใส่กัน สิ่งดีๆเหล่านี้แม้ว่าจะห่างกันไป มันก็จะไม่หายไปไหนหรอก อย่างน้อยมันก็จะอยู่ในความทรงจำที่ดีตลอดไป...

อ่านแล้วก็อยากมีทั้งจุดหมายในชีวิต แล้วก็มิตรภาพที่ไร้เดียงสาแบบนี้บ้างจัง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันเกิดขึ้นได้นะพี่ปุ๊

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น้องชัยรู้ได้ไงว่าเป็นพี่อ่ะ เก่งจัง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำไมทริปนี้มาเร็วจัง
ทริปอื่นไม่เห็นมีเลย
อยากดูอ่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดีใจที่มีเพื่อนใหม่ รู้สึกไม่ผิดหวังที่แนะนำ บอกแล้วว่าพรสวรรค์มีอยู่ในตัวแล้ว ขาดแต่พรแสวงอ่ะ ก้อหาเจอแล้วนิ

Pokpitch กล่าวว่า...

ข่าวแวดวงกล้องดิจิตอล เทคนิคการภ่ายภาพ ราคากล้อง ดิจิตอล ริวิว
http://hotphotograph.blogspot.com
ขอบคุณครับ