วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

ไหว้พระขอพร 9 พระอารามหลวง

สงกรานต์นี้นึกๆไปก็ขี้คร้านจะออกไปเที่ยวที่ไหนๆ อาจเพราะคนเยอะขวักไขว่ อาจเพราะอยากพักผ่อน หรืออาจเพราะอากาศที่เริ่มร้อนอบอ้าวและแดดแผดเผา แต่นี่คือเทศกาลที่ชื่นฉ่ำกายใจ นึกไปนึกมาผมเลยคิดว่าไปข้างนอกน่าจะดีกว่านอนอุดอู้อยู่ที่ห้องเฉยๆ

ว่าแล้วการคิดทริปก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้นึกยากจังเพราะใน กทม.ก็ไปจนแทบจะพรุนอยู่แล้ว แล้วยิ่งแถวนี้ ปิ่นเกล้า ลาดพร้าว สยาม เป็นอันเซ็ง ไปไหนกันดี? คิดไปคิดมา หาบุญกุศลใส่ตัวบ้างดีกว่า ว่าแล้วเราก็ไปไหว้พระเก้าวัดกันเถอะครับไปโลด!!!

แต่เดิมวัดเก้าวัดประกอบไปด้วย วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดชนะสงคราม วัดสุทัศน์ ศาลหลักเมือง ศาลเจ้าพ่อเสือ วัดอรุณ วักกัลยาณมิตร และวัดระฆัง (วัดรอบเกาะรัตนโกสินทร์) แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เขาก็เปลี่ยนจากศาลเจ้าพ่อเสือและศาลหลักเมือง เป็นวัดสระเกศและวัดบวรนิเวศแทนอ่ะครับ สืบข้อมูลอย่างดีแล้ว เราก็เริ่มกันเลยนะครับ อ้อ!กรุ๊ปทัวร์เซตเดิมจ้า เริ่มจากวัดแรกเลยนะครับ (คือเริ่มจากที่พวกผมเริ่มอ่ะนะ)

วัดระฆังโฆสิตาราม
คติ "มีชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว


ระยะไกลครับ


หลังจากนั่งเรือลงท่าศิริราช เดินมาอีกซักพักผ่านภัทราวดีเธียร์เตอร์แล้วก็มาถึงวัดเริ่มต้นการทำบุญของเราในวันนี้ครับ วัดระฆังโฆสิตาราม มาที่นี่จะขาดไม่ได้เลยก็วัดระฆัง หรือเดิมชื่อวัดบางหว้าใหญ่คือ การเคารพสักการะสมเด็จพระพุฒาจาย์ (โต พฺรหฺมรํสี)ผ่านการท่องถาชินบัญชรด้วยครับ จิตใจเริ่มสงบแล้วครับ เราอยู่ที่นี่แค่เวลาสั้นๆน่ะครับ เพราะกลัวจะไหว้พระไม่ครบทั้ง 9 วัดน่ะครับ อ้อ!ที่ชื่อวัดระฆังน่ะ เพราะว่าเขาขุดพบระฆังหนึ่งลูกนะครับ(แต่ตอนนี้ระฆังลูกนั้นอยู่ที่วัดพระแก้วครับ)

พระประธานในอุโบสถ

วัดนี้ดีตรงไหน...หากใครมาที่นี่แล้วไม่สวดคาถาชินบัญชรซักจบล่ะก็ เขาว่ามาเสียเวลาปล่าวนะ


วัดกัลยาณมิตร
คติ "เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ ดอกไม้พวงมาลัย

เข้าวัดกันนะ

พระประธาน(กำลังบูรณะครับ)

เสาหงส์

วัดกัลยาณมิตรตั้งอยู่ริมน้ำทางฝั่งธนบุรี เป็นวัดที่มีลักษณะการผสมผสานวัฒนธรรมแบบจีนด้วย กล่าวคือวัดนี้มีการไหว้เทพเจ้าของจีน การใช้เทียนแดง ลักษณะของโบสถ์หรือเจดีย์ วัดนี้มีพระประธานชื่อพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโตนะครับ ซึ่งหลวงพ่อโตเป็นที่เคารพนับถือโดยเฉพาะในหมู่คนจีนนะครับ จึงมีชื่อเรียกแบบจีนว่า "ซำปอฮุดกง" หรือ"ซำปอกง" วันนี้ที่นี่มีการสวดมนต์และเทศน์ของพระสงฆ์ที่จำวัดนี้ด้วย คาดว่าน่าจะหลายสิบรูปอยู่นะครับ แต่น่าเสียดายอีกครั้งที่เวลาเริ่มสั้นเข้ามา พวกเราจึงได้เวลาเปลี่ยนวัดอีกแล้ว วัดสุดท้ายทางฝั่งธนบุรี...วัดอรุณ

เปลวไฟแห่งศรัทธา

วัดนี้ดีตรงไหน...วัดไทยอารมณ์จีนแบบนี้มีแถวไหนกันล่ะ


วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง)
คติ "ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียนคู่

สัญลักษณ์แห่งวัดอรุณ

มุมแอบถ่าย

วิหารภายในมีพระพุทธบาทครับ

จากวัดกัลยาณมิตร นั่งรถไม่ถึงอึดใจก็มาถึงวัดอรุณฯแล้วครับ แต่คราวนี้ขอรีบหน่อย เพราะกลัวว่าเวลาที่เหลือจะไม่เหลือแล้วซิครับ เพราะผ่านมาครึ่งวัน(นี่ก็ปาเข้าไปจะเที่ยงแล้ว) เพิ่งทำบุญได้ 3 วัดเอง มาถึงวัดอรุณฯที่ไรก็อดที่จะเข้าไปชมพระปรางค์อย่างใกล้ชิดไม่ได้นะครับ โชคดีอีกครั้งที่วันนี้ เขาเปิดให้เราได้ขึ้นไปชมพระปรางค์อย่างใกล้ชิดด้วยครับ สวยทีเดียว รอบพระปรางค์จะมีการใช้เศษกระเบื้องจีน(เดาเอานะครับ) ติดอยู่ภายนอกเยอะแยะไปหมด สลับกับรูปปั้นต่างๆมากมายครับ ดูใกล้ๆก็สวยไปอีกแบบ และที่ขาดไม่ได้ เห็นจะเป็นยักษ์สองตนที่ยืนเฝ้าหน้าประตูทางเข้าสู่วัด โดยมิเกรงกลัวต่อแดดฟ้าลมฝนแต่อย่างใด สมแล้วกับที่เป็นยักษ์วัดแจ้งครับ ผ่านจากยักษ์วัดแจ้งมา เราก็ลงเรือเพื่อข้ามฟากสู่ท่าเตียน เข้าสู่พระนครกันแล้วครับ

มุมเงยกับพระปรางค์

บันไดสู่ธรรม





ประติมากรรมรอบพระปรางค์ครับ

มุมอื่นๆรอบพระปรางค์

ดอกสาละ

ต้นสะละ

ยืนยงมานานวัน

วัดนี้ดีตรงไหน...ลองพลิกเหรียญ 10 บาทดูซิครับ ด้านหลังน่ะ วัดอรุณริมน้ำเชียวนะ


วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
คติ "ร่มเย็นเป็นสุข"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น

แค่พระเศียรก็สุดยอดครับ

ใหญ่มาก

เขาว่าต่ออายุนะ ตักบาตร 108 เนี่ยะ

วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนฯ คนส่วนใหญ่จะคุ้นกับชื่อแรกของวัดนี้มากกว่า เห็นด้วยมั้ยครับ วัดนี้เป็นวัดประจำรัชกาลที่1 ภายในวัดโพธิ์มีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระมหาสถูป(พระปรางค์)และระเบียงแก้วรอบพระอุโบสถ,เขามอและเขาฤาษีดัดตน,พระมหาเจดีญ์สี่รัชกาล,พระเจดีย์ราย(รายล้อมรอบพระระเบีงชั้นนอก) และที่ขาดเสียไม่ได้เลยคือ พระวิหารพระพุทธไสยาส พระนอนที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย หลังจากสงฆ์น้ำพระเรียบร้อยแล้วนะครับ พวกเราก็ไม่รีรอรีบเดินดูสถานที่น่าชมต่างๆภายในวัด แต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้ทางวัดกำลังบูรณะบางส่วนอยู่นะครับ เลยเก็บภาพมาได้ไม่หมดครับ

เกรงขาม

เหนื่อยนักพักหน่อย

ขอให้รวย สวย เก่งด้วยเถิด

ทะเลเจดีย์

อีกมุมครับ

วัดนี้ดีตรงไหน...จับเส้นตึง คลึงเส้นหย่อน ผ่อนเส้นยึด มาวัดแล้วสบายตัวกลับไปด้วย ดีมั้ยล่ะ


วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
คติ "เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกไม้

พระอุโบสถภายนอก





พระปรางค์ครบ 8 รัชกาลครับ

ถัดมาคือวัดที่ผมชอบมากที่สุดวัดหนึ่งนะครับ คงต้องสารภาพเลยว่าแม้จะมีโอกาสได้มาวัดพระแก้วบ่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่เคยเดินถ่ารูปจนครบเลยครับ (เคยมาซัก 4 ครั้งได้แล้วครับ เยอะมั้ยเนี่ยะ?) อย่างที่ทราบกันนะครับว่า วัดพระแก้วเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ซึ่งตอนที่ไปนะครับไม่มีโอกาสได้เข้าไปชมหรอกครับ แต่ก็เผลอไผลคิดเอาว่า ตอนนี้ท่านคงทรงเครื่องฤดูร้อนแน่เลยครับ เพราะอากาศนี่ใช้ได้เลยทีเดียวครับ เผาเต่าตายเลยนะ แต่ถึงอย่างไร ผมก็ชอบที่นี่อยู่ดี อ่อ!เพื่อนผมคนหนึ่งไม่ได้เข้ามาล่ะ เพราะว่าดันใส่กางเกงขาสั้นมา(3 ส่วนอ่ะครับ) เราก็เลยต้องรีบไหว้เพื่อจะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนๆน่ะครับ และสิ่งที่ชอบมากๆเลยนะครับก็คือ กำแพงรอบวัดพระแก้วที่เป็นจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวของรามเกียรติ์ทั้งหมดเลยครับ กะไว้ว่าหากมีโอกาส จะมาอ่านประดับความรู้ให้หมดทีเดียว

ซุ้มประตูสุดวิจิตร

ตากแดดมานานแล้วนะ

ยักษ์วัดพระแก้ว

วัดนี้ดีตรงไหน...แค่ความวิจิตรบรรจงประณีตงดงามเพียงแค่นี้ก็บรรยายไม่ถูกแล้วครับ


วัดสุทัศนเทพวรราม
คติ "วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม

พระอุโบสถเช่นกัน

ประตูทางเข้าภายในอุโบสถ

พระพุทธตรีโลกเชษฐุ์

จากวัดพระแก้ว เราก็นั่งรถมาต่อกันที่วัดสุทัศน์กันนะครับ วัดนี้คนเยอะเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาครับ อาจะมีคนจำนวนไม่มากที่ทราบว่าวัดนี้มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อเลยนะครับ เช่นวัดพระโต วัดพระใหญ่หรือวัดเสาชิงช้า (จำได้ง่ายที่สุดเพราะหน้าวัดมีเสาชิงช้าตั้งตระหง่าอยู่ครับ) และที่สำคัญนะครับ จากประวัติเก่าก่อน พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงผูกนามพระประธานในในพระวิหาร พระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ให้คล้องกันว่า "พระศรีศากยมุนี" "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" และ "พระพุทธเสรฏฐมุนี" วัดนี้ร่มเย็นเป็นที่สุดเลยครับ

พระวิหารด้านข้าง

ขอให้ผมโตเป็นคนดีนะฮะ สาธุ!

มองจากหน้าต่าง

เสาชิงช้าหลังบูรณะ

วัดนี้ดีตรงไหน...หมดปัญหาเรื่องความจำ(ไม่ได้) แค่นึกถึงเสาสิงช้า วัดสุทัศน์ก็ลอยมาแล้ว


วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดสระเกศ)
คติ "เสริมสร้างความคิด อันเป็นสิริมงคล"
เครื่องสักการะ...ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก

ขนาดเต็มๆ

เจดีย์บนยอดภูเขาทอง

ภายในวัดจากมุมสูง

โอ้โฮ!นี่หรือบางกอก

วัดสระเกศ เดิมทีมีชื่อเรียกว่า "วัดสะแก" และเปลี่ยนเป็นวัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา พระราชทานนามโดยรัชกาลที่หนึ่ง จากครั้งที่พระองค์ทรงชำระพระเกศาจากการปราบจราจลในธนบุรีนะครับ ครั้งนี้คงได้คลายร้อนมากที่สุดนะครับ เมื่อเราก้าวเข้าสู่ทางเดินขึ้นลาดชันเล็กน้อยของภูเขาทองนะครับ ระหว่างทางเดินก็มีระฆังใหญ่น้อยต่างกันไปให้ตีพอให้คลายกังวลว่าเมื่อไหร่จะถึงยอกเสียที ซึ่งเราก็ใช้เวลาไม่นานนะครับก็ถึงแล้วครับ "พระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง" มีพระเจดีย์ขนาดกลางตั้งอยู่นะครับ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุให้กราบไหว้เคารพบูชาอยู่นะครับ ภายในมีทางขึ้นเล็กๆเพื่อขึ้นไปยังยอดพระเจดีย์ซึ่งตรงนี้เราสามารถมองเห็นกรุงเทพได้ทั่วเลยทีเดียว แต่ใช่ว่าที่นี่จะมีแต่ภูเขาทองนะครับ เพราะวัดสระเกศยังมีพระอุโบสถ พระวิหารอีกหลายที่ทีเดียวครับ

ระฆังแห่งความหวังดี

สวยสุดแล้วเนี่ยะ

สวยจัง

ขณะนั่งรถผ่านครับ

วัดนี้ดีตรงไหน...วัดในกรุงเทพที่ไหนสูงเท่านี้ได้อีกเล่า


วัดบวรนิเวศวิหาร
คติ "พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก

วิจิตร

งดงาม

พิธีอุปสมบท


ดอกไม้แด่พระพุทธ

หลังจากหายร้อนไปได้พอควรนะครับ คราวนี้เรากลับต้องมาใจตุ๊มๆต่อมๆว่าจะโดนสาดน้ำตามประเพณีตอนไหน เมื่อไหร่ ก็เพราะวัดที่เหลืออีก 2 วัดที่เราจะไปอยู่ทางบางลำพูนั่นเองครับ เราเริ่มด้วยวัดที่เปียกน้อยก่อน(เพราะคิดว่าคนน่าจะน้อยนะครับ) คือวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหารหรือวัดบวรนิเวศวิหาร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 นะครับ พระอุโบสถเป็นศิลปะไทยผสมจีนนะครับ วันที่ไปนะครับ มีนาคมาบวชกันมากมายหลายรูปเลยที่เดียวนะครับ ซึ่งก็คงไม่แปลกหากทราบว่าที่นี่ถือเป็นวิทยาลัยแห่งแรกของคณะสงฆ์ด้วยนะครับ ข้างๆพระอุโบสถมีพระพุทธบาทสำหรับการกราบไหว้บูชาด้วยครับ แต่ที่น่าแปลกคือ มีการตั้งเหรียญไว้มากมายเลยครับ ตั้งได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่ความสามารถของแต่ละคนครับ เราอยู่ที่นี่ได้ไม่นานอีกเช่นเคยครับ เพราะหนทางอีกยาวไกล เราเลือกการเดินเพื่อไปสู่อีกวัดสุดท้ายครับ (แอบได้บรรยากาศของเทศกาลสงกรานต์ด้วยครับ)

เก่งมั้ย? ใครตั้งเอ่ย

เจดีย์ในวัด

วัดนี้ดีตรงไหน...วัดนี้เคยเป็นที่พำนักระหว่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะออกผนวชด้วยนะครับ (และพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่นๆด้วย)


วัดชนะสงคราม
คติ "มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง"
เครื่องสักการะ...ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก

ด้วยความเคารพ

พระพุทธรูปภายในอุโบสถ

ศรัทธา

สุดท้ายแล้วครับ วัดชนะสงครามเดิมทีมีชื่อว่า "วัดกลางนา" เพราะเดิมตั้งอยู่กลางทุ่งนา ตั้งแต่สมัยอยุธยาต่อมารัชกาลที่หนึ่งทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่และพระราชทานชื่อใหม่เป็น "วัดตองปุ" เช่นเดียวกับที่อยุธยา เป็นวัดที่เดิมทีพระสงฆ์มอญจากอยุธยาและลพบุรีพำนักอยู่ครับ วัดนี้แปลกอยู่เรื่องนึงนะครับ คือเราจะไหว้ (ด้วยธูป เทียนและดอกบัว) "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท" ซึ่งครั้งแรกก็ให้แปลกใจนะครับว่า ท่านเองนั้นมิได้มัลักษณะคล้ายพระสงฆ์เลยก็ว่าได้ หลังจากสอบถามแม่ชีและพระสงฆ์บริเวณนั้นนะครับก็ได้ทราบว่า เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านสามารถรบชนะกับพม่ารามัญได้ 3 ครั้ง และท่านยังทรงบูรณะและตั้งชื่อใหม่ นามว่า "วัดชนะสงคราม" อีกด้วย ส่วนพระประธานในพระอุโบสถจะไม่ให้ไหว้ด้วยธูปเทียนนะครับ

เบื้องบน...ใต้หลังคา

ด้านหลังพระอุโบสถนะครับ

วัดนี้ดีตรงไหน...เฉพาะที่ตั้งของวัด ก็เรียกว่าเรียกวัยรุ่นวุ่นวายเข้าวัดได้เยอะทีเดียวนะ (ถ้าพี่น้องเหล่านั้นจะฝักใฝ่ธรรมมะอ่ะนะคับ)

สุดท้ายนะครับ ในที่สุดพวกเราทั้ง 3 คนก็ทำบุญจนครบทั้ง 9 วัดนะครับ แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยขนาดไหน (อากาศร้อนมากและเร่งรีบตลอด เมื่อยด้วย)แต่เราก็รู้สึกอิ่มบุญอิ่มอกและอิ่มใจเป็นที่สุดครับ

๗ ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดีอ่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้บุญไปตามกันเลย มิน่าถึงได้อิ่มอวบขนาดนี้ ภาพสวยอีกแระ แต่ติดคนไปหน่อย จินตนาการดีเยี่ยม ไม่รู้ว่าไหม้เกรียมกันหรือป่าวตั้งเก้าวัดแน่ะ อยากให้พาไปด้วยจัง

Pooh กล่าวว่า...

อนุโมทนา สาธุ นะจ๊ะ... ขอผลบุญส่งผลให้ทุกคน รวมหมี pooh ด้วย มีแฟน สวยๆ หล่อๆ กันโดยถ้วนหน้านะค้า.. โอมเพี้ยง...

puengnoi กล่าวว่า...

เข้าวัดได้ด้วยเหรอ ไม่ร้อนเหรอจ๊ะ แต่ก้อดีนะ จะได้เป็นคนที่มีจิตใจดี (ผิดหน้าตา) อิอิอิ งัยก้อ ขอส่วนบุญแบ่งๆกันมั่งนะ ชาติหน้าจะได้เจอกันอีก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทริปหน้า ขอรูปสวยๆ เยอะๆ นะ

qkill กล่าวว่า...

อ่านเหนื่อยเลยตรู..ยาวมากมาก
ก็อิ่มบุญอย่างที่ว่าแหละ..แต่ตัวเนี้ยดำเมียมไปหลายเดือนเลยอ่ะ
ทริบหน้า..ขอแดดน้อยๆนะ
รูปสวยหลายรูปนะ..ส่วนตัวเราชอบรูประฆังอ่ะ..ดูมีอะไรดีนะ

BlueSea BrownSand & BlackSky กล่าวว่า...

พี่ fishoil คับ ไหม้ไม่ไหม้ไม่รู้อ่ะ แต่ว่าผิวลอก หลังแดง ประหนึ่งว่า อีก 10 นาทีก็แล่กินได้เรยยยย

พี่ pooh นึกว่าหมี pooh จะไม่มีแฟนซะอีก และก็ไม่มีจริงๆด้วย เหอ เหอ

พี่ผึ้งชมพูก็ขอให้ได้อิ่มบุญอิ่มกุศลไปด้วยนะครับ แต่แค่อิ่มพอนะครับ อย่าถึงกะอืดเรยยยย :P

momoo เหนื่อยและร้อน เมื่อยและล้ามาก เอารูปสวยกว่านี้เห็นทีต้องเปลี่ยนนางแบบอ่ะเน้อ...

qkill ส่วนตัวเราชอบรูปเหรียญ"ใครตั้งนะ" นานมากกว่าจะถ่ายได้ไง