เมื่อเอ่ยชื่อ"เมืองเลย" ใครหลายคนคงนึกถึงภูกระดึง แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับต้นๆของเมืองไทย มีบ้างบางคนที่อาจนึกถึงภูเรือ หรืออย่างภูหลวงที่ตั้งตะหง่านรอผู้คนมาค้นหา แต่นอกเหนือจากแหล่ะท่องเที่ยวเหล่านั้น เมืองเลยยังคงมีเศษเล็กเศษน้อยที่นักท่องเที่ยวสามารถหาความสุข ความเพลิดเพลินได้ แตกต่างกันไปตามสไตล์การท่องเที่ยวแบบ "แอดเวนเจอร์" เหมือนอย่างที่ผมและกรุ๊ปทัวร์จิ๊กโฉ่ไปมากันครับ
ว่ากันตามตรง ผมเองก็พอคุ้นเคยกับ 3 ภูที่กล่าวไปแล้วอยู่เหมือนกันนะคับ รู้สึกว่าการมาครั้งแรกคือการได้ไปเยือนยังภูกระดึง ประทับใจมากครับ (เอาไว้จะพยายามเอามาโชว์นะคับ)และครั้งนี้ก็ให้นึกอยู่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง เพราะเวลาเพียงเสาร์อาทิตย์ก็คงจะนอนค้างอ้างแรมที่อื่นมากมายไม่ได้ แต่เรามีตัวช่วยพอดีเลยครับ เจ้าของเมืองเลยเอง(บ้านอยู่นั่นน่ะ)น้องเมทที่หอผมเอง ได้ข่าวว่ามีการเตรียมการเล็กๆถึงสถานที่เที่ยวเพื่อสร้างความประทับใจ(มิรู้ลืม)แก่พี่ๆตลอดทริปด้วยนะครับ
ครั้งนี้เราเริ่มเดินทางกันตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืนครับ เหนื่อยพอดูกว่าจะถึงนะคับ มีแวะหาที่เที่ยวตอนเช้าๆที่ น้ำตกตาดโตน" จังหวัดชัยภูมิด้วยนะคับ อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุดนะครับ ผู้คนที่เคยคึกคักก็เงียบเหงาไปด้วย แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดของที่นี คือการจัดระบบระเบียบ และความสะอาด ที่ถือว่าสะอาดมากๆเลยนะครับ
อุทยานแห่งชาติตาดโตนว่ากันตามตรง ผมเองก็พอคุ้นเคยกับ 3 ภูที่กล่าวไปแล้วอยู่เหมือนกันนะคับ รู้สึกว่าการมาครั้งแรกคือการได้ไปเยือนยังภูกระดึง ประทับใจมากครับ (เอาไว้จะพยายามเอามาโชว์นะคับ)และครั้งนี้ก็ให้นึกอยู่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง เพราะเวลาเพียงเสาร์อาทิตย์ก็คงจะนอนค้างอ้างแรมที่อื่นมากมายไม่ได้ แต่เรามีตัวช่วยพอดีเลยครับ เจ้าของเมืองเลยเอง(บ้านอยู่นั่นน่ะ)น้องเมทที่หอผมเอง ได้ข่าวว่ามีการเตรียมการเล็กๆถึงสถานที่เที่ยวเพื่อสร้างความประทับใจ(มิรู้ลืม)แก่พี่ๆตลอดทริปด้วยนะครับ
ครั้งนี้เราเริ่มเดินทางกันตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืนครับ เหนื่อยพอดูกว่าจะถึงนะคับ มีแวะหาที่เที่ยวตอนเช้าๆที่ น้ำตกตาดโตน" จังหวัดชัยภูมิด้วยนะคับ อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุดนะครับ ผู้คนที่เคยคึกคักก็เงียบเหงาไปด้วย แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดของที่นี คือการจัดระบบระเบียบ และความสะอาด ที่ถือว่าสะอาดมากๆเลยนะครับ
น้ำน้อยไปนิด
คนน้อยด้วยครับ
เส้นทางเดินชมน้ำตก
ทางเดินบริเวณ information
พวกเราอยู่ที่ได้ไม่นานก็ต้องเดินทางต่อไปยังจุดหมายของเราต่อไปนะครับ คือบ้านของน้องเขานะครับ เราจะพักกันที่นั่น ตลอดทริปเมืองเลยครับ(ประหยัดดีจริงๆ อิอิ)
ฟ้าจ๋าฟ้า อยากรู้ว่าปุยฟ้าล่องลอยไปไหน
หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน สุดยอดอาชีพของไทย
หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน สุดยอดอาชีพของไทย
ก่อนจะไปถึงบ้านน้องเขานะครับ น้องเมืองเลยคนนี้ก็พามายัง "กุ้ยหลินเมืองเลย" เขาว่าอย่างนั้นอ่ะนะ จะว่าไปด้วยความที่ที่นี่เองมีภูเขาน้อยใหญ่แตกต่างกันไป เว้นระยะห่างของการก่อกำเนิดจากพื้นดิน บ้างก็เกาะกลุ่มเป็นภูเขาขนาดย่อม บ้างก็แยกตัวเพียงลำพัง สลับกับผืนป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์จึงให้ให้ที่นี่มีลักษณะคล้ายๆกับกุ้ยหลินในเมืองจีนน่ะครับ(อันที่จริงผมเองก็ไม่เคยไปอ่ะนะ) มาถึงที่นี่ เราก็เริ่มผจญภัยแบบแอดเวนเจอร์กันเลยให้สมกับที่มาเมืองเลย เมืองแห่งการผจญภัยเสียหน่อย ว่าแล้วเราก็ลัดเลาะไปเรื่อยๆลอดถ้ำบ้าง ปีนผาบ้าง เดินเข้าป่า โผล่ทางเท้าสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยที่จุดหมายของเรานั้นคือ...เอ่อ...ไม่มีอ่ะครับ ตอนแรกน่ะ จะมีคนมานำทาง แต่เราดันปฏิเสธเขาไปเสียแล้ว อ่อ!แต่ค่าคนนำทางน่ะ เขาคิดราคาเท่านี้ครับ...(ติดไว้บอกตอนจบดีกว่าครับ)
เนวิเกตี้ สองคน สี่แรง
ลอดถ้า
ออกมาแล้ว
ภายในถ้ำ
มุดถ้ำ(อีกแล้ว)
แสงที่ปลายอุโมงค์
ลอดถ้า
ออกมาแล้ว
ภายในถ้ำ
มุดถ้ำ(อีกแล้ว)
แสงที่ปลายอุโมงค์
ยิ่งเดินยิ่งลึก ยิ่งเย็นยิ่งมืด เราเร่งฝีเท้า เร่งการไต่ เร่งการลอด แล้วอยู่ๆเราก็มาโผล่เอาตรงจุดชมวิวครับ สวยทีเดียว มันสูงมากจากพื้นนะครับ ลักษณะคือทำเป็นตะแกรงเหล็กยื่นออกไปจากหน้าผา แต่แข็งแรงดีครับ
เริ่มเห็นความเงียบสงบ
กุ้ยหลินเมืองเลย
ขอซักรูปเถอะครับ
กุ้ยหลินเมืองเลย
ขอซักรูปเถอะครับ
หายเหนื่อยเราก็เดินกลับกันล่ะครับ คราวนี้ก็เดาๆเหมือนทางที่มาเนี่ยะแหล่ะว่าจะไปโผล่ตรงไหนอีก และ...บ้านเก่าๆ คนเงียบๆ วังเวงๆก็อยู่เบื้องหน้าเรา (ตอนแรกนึกว่าจะเหมือนหนังสยองขวัญประมาณหลอกมาเชือดซะอีก น่ากลัวเชียวครับ) แต่เดินออกมาซักพัก เราก็พบว่า เรายืนอยู่ท่ามกลางภูเขาและไร่สวนที่ชาวบ้านปลูกไว้สวยมากครับ เก็บรูปซักพัก เราก็เริ่มนึกได้ว่า นี่มันตรงไหนเนี่ยะ? ไกลหรือใกล้จากที่เราเริ่มต้นมากันแน่นะ เดินเดาๆไปเพราะคิดว่าถนนที่เราเดินน่ะ น่าจะไปบรรจบกับถนนสายอื่น เผื่อเราจะคุ้นๆกับพิ้นที่แถวนี้บ้างนะครับ
ลงทางนี้
ขาลง สบายหน่อยครับ
ขาลง สบายหน่อยครับ
และแล้ว...สวรรค์ประทานจริงๆ รถสองแถวก็ขับผ่านมา เมื่อถามชาวบ้านที่โดยสารมาด้วย คำตอบคือ อีกประมาณ 1-2 กิโล (จากที่เราเดินวนๆเวียนๆงงๆ มาแล้ว เกือบ 10 กิโล...เว่อร์ไปป่ะ?) รู้แต่ว่าตอนนั้นเหนื่อยมากจริงๆ ร้อนมากด้วยครับ เอาล่ะเดินย้อนมาจะเป็นไร ขอแค่มีน้ำเย็นชื่นใจให้กินให้ดื่มเป็นพอน่ะ สอบถามจากร้านค้าแรกที่เราพุ่งรี่ตรงเข้าไปซื้อน้ำก็ได้ความว่า...
ร้างมั้ยล่ะ ดูเอาเอง
life is freedom
ธรรมชาติสวยงาม
ต้นข้าวโพด (มั้งครับ)
ภาพวงกว้าง
life is freedom
ธรรมชาติสวยงาม
ต้นข้าวโพด (มั้งครับ)
ภาพวงกว้าง
ที่นี่น่ะ ถ้าเราเหมาหรือจ้างคนนำทางก็กรุ๊ปล่ะหนึ่งร้อยบาท และจะมีรถไปรับจากที่เราเดืนมาตั้งไกลอีกด้วย...อ่าวอย่างนี้ความงกก็เป็นเหตุซิเนี่ยะ พี่คนหนึ่งบอกว่า...ไม่อาวอีกแว้วววววว หลังจากขึ้นรถเรียบร้อย โรงเรียนเลยแล้ว พี่คนหนึ่งก็บ่นอีก(?!) ว่าอยากไปเที่ยวน้ำตก อาบน้ำให้ชุ่มฉ่ำใจเสียหน่อย ว่าแล้วก็ตรงไป"น้ำตกเพียงดิน"กันครับ ตามข้อมูลแล้วเขาว่าน้ำตกนี่เป็นน้ำตกขนาดกลาง? เพราะว่ามันมีหลายชั้น? เหมาะกับการอาบน้ำเล่น เพราะมีแอ่งน้ำมากมาย? โอ้วววว...ชมภาพที่พยายามถ่ายมาเลยดีกว่านะครับ อิอิ
น้ำตกเพียงดิน
น้ำตก...เพียงดินจริงๆด้วย
น้ำตก...เพียงดินจริงๆด้วย
อยู่ได้แป๊บเดียว ก็ไม่มีอะไรทำอ่ะครับ กลับดีก่า อ่อ!ก่อนกลับ เราขอเรียกที่นี่แบบติดตลกว่า "น้ำตกมีเพียงดิน"ได้มั้ยเนี่ยะ
ยามเย็นอ่างเก็บน้ำแถวบ้านน้องเมืองเลย
ถ้าคิดว่านั่นน้อยไป วันรุ่งขึ้นตื่นมา น้องเมืองเลยก็พาพวกเราสู่วัดป่าภูฝางสันติธรรม น้องเมืองเลยบอกว่า ที่นี่คนวิปัสสนากันเยอะทีเดียว และภูเขาสูงด้านหลังของวัด ก็มีเจดีย์ให้ขึ้นไปสักการะ และชื่นชมกับธรรมชาติด้วยนะครับ ขอบอกว่าเหนื่อยมาก
ชบาแก้วและผองเพื่อน
ศาลาวัดใหญ่มาก
เหนื่อยแล้วซินะ ลิ้นห้อยเชียว
เจดีย์รูปทรงแปลกตา
สวยมั้ยครับ
ศาลาวัดใหญ่มาก
เหนื่อยแล้วซินะ ลิ้นห้อยเชียว
เจดีย์รูปทรงแปลกตา
สวยมั้ยครับ
จากนั้นเราก็พักเหนื่อยในรถกันครับ ใช่ครับเพราะว่ามันต้องไปทัวร์ต่อนี่ครับ จุดหมายเราอยู่นี่ครับ น้ำตกขึ้นชื่อ(ของน้องเขาและเพื่อนสมัยเรียนของน้องเมืองเลยอ่ะครับ) "น้ำตกห้วยเลา" เช่นนั้นแล้วพวกเราก็นึกไปถึงการได้แช่น้ำ เล่นน้ำจากธารน้ำตกที่เย็นฉ่ำ อย่างน้อยคงผ่อนคลายลงเยอะที่เดียว เมื่อถึงที่จอดรถเราเดินเข้าไปอีกพักเล็กๆก็ได้ยินเสียงน้ำตกแล้วครับ น้องเมืองเลยบอกวาชั้นที่ 9 จะสวยมาก(ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่าน้ำตกมีกี่ชั้น) แต่ด้วยความที่อยากเล่นน้ำมากแล้วเราก็เลยแวะชั้นที่ 4 ก่อนครับ...
เพียงสายน้ำไหล
ป่ายปีนจนถึงยอด
ป่ายปีนจนถึงยอด
คำถาม...ไหนแอ่งน้ำที่ให้เล่น ผุดอยู่ในใจของทุกคน ด้วยความที่อาจจะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่(หากเทียบกับน้ำตกเพียงดิน)หรืออาจเป็นน้ำตกขนาดกลางๆ ทำให้เราหาแอ่งน้ำสำหรับเล่นยากเหลือเกิน ไม่ช้า วิธีการเล่นน้ำตหแบบใหม่ก็เกิดขึ้น (อย่างน้อยๆผมก็ไม่เคยขนาดนี้) วิธีการที่ว่าก็คือ การปีนสวนน้ำที่ตกลงมาเรื่อยไป (ต้องขออภัยจริงๆที่ไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ชมได้นะครับ เพราะว่าน้ำที่กระเซ็นสายจะพาลถูกกล้องเจ๊งเอาครับ) แรกๆเราก็คิดว่าคงปีนไปอีกนิดหน่อย เดี๋ยวก็สามารถเล่นน้ำได้แล้ว แต่ยิ่งปีนก็ยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆต่างหาก จนกระทั่งเรามาหยุดอยู่ที่ชั้น 6 หรือ 7 เนี่ยะแหล่ะครับ เพราะเบื้องหน้าเราดูจะเป็นสายน้ำตกและหน้าผาที่สูงชันทีเดียว
เราต้องปีนขึ้นทางนี้ครับ
เริ่มถอดใจแล้ว
โถงทางเข้า ถ้ำธารน้ำไหล
เขาว่าต้นน้ำ อยู่ภายในถ้ำนั้นครับ
เริ่มถอดใจแล้ว
โถงทางเข้า ถ้ำธารน้ำไหล
เขาว่าต้นน้ำ อยู่ภายในถ้ำนั้นครับ
ยังไงก็ต้องไปต่อครับ เพราะว่าความสวยงามนั้น น้องเมืองเลยบอกว่าอยู่เมื่อผ่านชั้นนี้ไปแล้ว(โอ้ว!)ความทุลักทุเลเกิดขึ้นเป็นระยะ แน่นอนเราทั้งปีนผาป่ายหิน โหนเถาวัลย์ เดินข้ามสะพานต้นไม้หัก จนกระทั่งชั้นบนสุดของที่นี่คือที่ๆแอ่งน้ำขนาดกลางวางตัวอย่างเงียบสงบ หามีใครเล่นไม่(อ้าว!?) ก็ลึกลงไปมันเต็มไปด้วยทรายและโคลน ซึ่งไม่เหมาะกับการเล่นเลยครับ สรุปแล้ว คือพวกผมอดเล่นน้ำครับ ที่ชั้นนี้มีถ้ำเล็กๆพอลอดได้เพื่อต้นน้ำนะครับ จากการสำรวจผมไม่แน่ใจว่าเขาให้เข้าได้หรือป่าว เพราะมันมืดมากได้ยินแต่เสียงน้ำไหลกระทบโขดหินดังมากและผมเองก็ลืมพกไฟฉายไปด้วย จึงเป็นอันสิ้นสุดการทัวร์ของทริปที่นี่ครับ แต่ทั้งหมดนั้นสนุกสุดๆไปเลยครับ เมื่อนึกย้อนว่า จะมีอีกซักครั้งหรือไม่ ที่เราจะได้ก้าวผ่านความยากลำบาก บททดสอบเล็กๆสำหรับความลำบาก ความกลัว และความพยายาม คงไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หากตั้งใจนะครับ(คิดได้ไงเนี่ยะ?) ขาลงเราลงอีกทางครับ เพราะให้ลงทางน้ำตกคงไม่ไหว หน้าผานะนั่น จริงๆแล้วสำหรับคนที่ไม่อยากหวาดเสียวหรือเปียปอน ทางเจ้าหน้าที่เขาทำทางให้เดินข้างๆด้วยครับ อย่างไรก็ไปชื่นชมบรรยากาศกันได้นะครับ
ทางเดินกลับ
หลังจากเที่ยวน้ำตกเสร็จเราก็บ่ายหน้าเข้าตัวเมือง ขอซะหน่อย เพื่อความอื่มหนำของกระเพาะอาหาร เมืองเลยเป็นเมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวายมากนะครับ ที่นี่มีความศิวิไลซ์ขนาดพอดี สวนสาธารณะสองฝากฝั่งของแม่น้ำคนเยอะพอดู กิจกรรมยอดฮิตคือการวิ่งจ๊อกกิ้ง และ เต้นแอโรบิก ย่านขายอาหารมีมากมาย วงเวียนน้ำพุ ห้างและโรงหนังเล็กๆ ก็มีให้ชาวเมืองเลยไม่ตกเทรนด์ หลังจากรับประทานอาหารที่เรียบร้อย เราก็กลับสู่ที่พักเตรียมตัวกลับพรุ่งนี้เช้าครับ
เส้นทางสู่อิสระ
เวลาเปลี่ยน รถเปลี่ยน คนไม่เปลี่ยน
กว้างใหญ่เหลือเกิน
เต็มที่กับชีวิต
เวลาเปลี่ยน รถเปลี่ยน คนไม่เปลี่ยน
กว้างใหญ่เหลือเกิน
เต็มที่กับชีวิต
บางครั้งเมื่อเรามองกลับมา เราพบว่า เราเองเป็นเพียงเสี้ยวส่วนเล็กๆของธรรมชาติที่กว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน ธรรมชาติอันเร้นลับ ซุกซ้อนความงดงามอยู่แทบทุกอณูของมัน เพียงแต่เราเองจะมองเห็นสิ่งเล็กน้อยแต่คุณใหญ่หลวงเหล่านั้นได้หรือไม่ เราจะมองเห็นคุณค่าความงดงามเหล่านั้นและหาความสุข ความรื่นรมย์ได้มากเพียงไร หากมองดูอย่างถีท้วนแล้ว เราอาจพบว่าสิ่งที่เรามองข้ามมากที่สุดของธรรมชาติ คือตัวเรา ก็เป็นได้