วันอังคารที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

อยากไปไหม...เกาะเสม็ด

เสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมา(17-18 มี.ค.50) เนื่องจากผมและคณะทัวร์(เจ้าเดิม)เพื่อนสนิทมั่กๆของผม เครียด จน เหล้า(อย่างสุดท้ายไม่เกี่ยว...)อยากจะไปเที่ยว ปลดปล่อยให้หายกลุ้มใจ ปล่อยปอดให้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ริมทะเลใส น้ำสีครามบ้าง แต่เราคงนึกทะเลที่ไหนที่ใกล้และสะดวกมากไปกว่าเกาะเสม็ดไม่ได้อีกแล้ว นอกเสียจากเราอยากเห็นทรายหยาบสีเข้ม(ชะอำ) ทะเลแห่งการละเล่นนานาชาติ(พัทยา)หรือชายหาดแห่งความแออัดยัดเยียด(บางแสน) เราเลยตกลงกันว่าทรายขาว น้ำใสไปเสม็ดดีกว่า


ซื้อตั๋วตรงนี้ค่ะ



เรานัดกันตอนเที่ยงของวันเสาร์นะครับ เพราะเพื่อนผมคนหนึ่งสอบพอดี(ขนาดสอบเสร็จก็ไม่วายอีก...แต่เอาเถอะได้ข่าวว่าเธอเครียดมาก หน้านิ่วตลอดเวลา) รอกันไปรอกันมากว่าจะออกก็ บ่าย2พอดี คิดดูซิครับว่เราไปถึงเสม็ดกี่โมง


เริ่มมืดแล้ว
ช่างเป็นบรรยากาศที่ดีเหลือเกิน แดดไม่ร้อนตอนนั่งเรือ ลมเย็นและชมพระอาทิตย์ตกขณะนั่งเรือ แบบนั้นดีจริงๆนะ หากเรามีบ้านพักแล้ว...ซักหลัง

เมื่อถึงเกาะ โอ้โห...เกือบทุ่มแหน่ะ คงได้เวลาหาบ้านพักแล้ว บ้านหรูๆ วิวสวยๆ ติดชายทะเลซักหลัง นั่งเล่น นอนเล่นริมทะเล สบายใจ?! แต่...อนิจจา มันไม่มีอยู่จริงเลยกับสิ่งที่วาดไว้ ทำไมเหรอครับ ก็เต็มอ่ะซิครับ เต็มทุกที่ เหลือแต่เต้นท์น่ะ
"ไม่อาววว อยากนอนบ้านน่ะ นานๆจะได้มาสบายๆ" เพื่อนผมคนหนึ่งแย้งออกมา
"แล้วถ้าไม่มีล่ะ ทำไง อะไรก็ต้องนอนอ่ะ" เราเริ่มแย้งกันเอง
"โอเค งั้นเราแยกย้ายกันหาแล้วกัน ใครเจอก่อนก็โทรบอกนะ" ผมสรุป (เป็นคนดีซะ :P )
กว่าจะหาที่นอนได้ก็ปาเข้าไป เกือบ 4 ทุ่มแหน่ะ จริงๆนะครับ ทุกรีสอร์ท ทุกบ้านพัก ทุกหาด และทุกหาด ไปมาหมดแล้ว แต่ไม่มีอ่ะ จนกระทั่ง...

นั่นแหล่ะครับ ตอนแรกเจ้าของบอกว่า 1,600 บาท
โอ้วววว!สภาพบ้าน
โอ้วววว!ห้องน้ำหรือนี่
โอ้วววว!ทีวีซ่อนอยู่ไหน ตู้เย็นไปหลบแถวไหนเนี่ยะ
ขอปรึกษาเพื่อนก่อนนะ
ต่อไปต่อมาได้ราคาย่อม แต่ไม่เยาว์เท่าไหร่ 1,350 บาท (โอ้ววววว!นี่กรูต่อเขาสุดๆแล้วโว้ย หรือเมิงจะไปนอนเต้นท์ฟ่ะ)
โอ้วววว!โอเคอ่ะ

บ้านแสนสุข
แต่ถึงอย่างไรต้องขอขอบคุณบ้านหลังนี้ที่มีที่ให้พวกผมนอนนะครับ เจ้าของบ้านอัธยาศัยดีมั่กๆเลย

อ้อลืมบอกครับว่าพาหนะที่เราใช้กันก็คือรถมอเตอร์ไชด์นะครับ อย่างที่บอกว่าเราเครียดและ เอ่อ...จน เราก็เลยต่อดะเลยครับ อะไรที่เราต่อได้เราจะทำ(คติประจำกลุ่มน่ะ)แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเจ้าของถิ่นน่ะครับ

พรีเซนเตอร์รถมอเตอร์ไซด์
จะว่าไป ผมเองมาเป็นครั้งแรกหรือครั้งสองก็จำไม่ได้ เพราะว่าถ้าเคยมาก็เป็นตอนที่ผมยังเด็กมากเลย ไม่คุ้นเลยนะเนี่ยะ จากจุดเริ่มต้นที่ผู้คนส่วนใหญ่เลือก ก็เป็นที่เดียวกับที่ผมเลือกนะครับ คือ ท่าเรือหน้าด่าน...จากนั้นก็เดินหารถมอเตอร์ไซด์และตะลุยหาบ้าน ระหว่างทางเราก็แวะหาดนั้น อ่าวนี้ไปทั่วล่ะครับ(ยังจะมีอารมณ์เที่ยวกันอีก!)
มีนางยักษ์ในรูปด้วยนะ(ใครเห็นบ้าง)
หาดแรกที่ผมจะแนะนำก็คือหาดทรายแก้ว หาดทรายสีขาว ทอดตัวยาว แซมด้วยผู้คนที่นั่งบ้าง ยืนบ้างดูครึกครื้นที่สุดของเกาะแห่งนี้ หาดนี้มีร้านอาหารและความครึกครื้นอย่างที่สุด


อารมณ์เหงาๆกับขวดเปล่า
แสงสียามเช้า
ใครอยากเหงา นั่งตรงนี้
หาดที่ครึกครื้นรองลงมาก็คือ อ่าววงเดือน ผมว่าที่นี้ผู้คนดูพลุกพล่านมากกว่าหาดทรายแก้วเสียอีก กิจกรรมต่างๆมีครบครัน และรีสอร์ทก็มากมายตามไปด้วย

หาดทรายขาว น้ำสีคราม
ขอถ่ายรูปรวมกลุ่มซะที
ฝากรอยเท้าไว้...ในผืนทราย
หาดที่ผมชอบมากที่สุดออกจะเป็นหาดที่"ค่อนข้าง"เงียบเหงาทีเดียว อ่าวหวาย...มันสงบร่มเย็น น้ำทะเลสีครามตัดกับทรายขาวละเอียด ดึงดูดให้พวกผมนั่งเล่น นอนเล่นและเล่นน้ำกันที่นี่ แม้จะมีสาหร่าย(ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่า ชื่ออะไร)ประปรายบริเวณชายหาด แต่อาจเป็นเพราะฤดูกาลแพร่พันธุ์ของมันก็ได้ จะว่ามันก็ไม่ได้บดบัความสวยใสของน้ำทะเลเลย


ร้านน่ารักๆ อ่าวลุงดำ
นอกจากนั้น หาดอื่นๆที่สงบร่มเย็นก็มีให้เลือกสรรมากมาย อย่างอ่าวลุงดำบ้านริมทะเลสะพานปลาที่ทอดตัวยาวลงในทะเล แต่มีโขดหินอยู่ควรทีเดียว อ่าวทับทิม อ่าวแสงเทียว และอ่าวปลายท้ายสุดของเกาะอย่างอ่าวกะรัง ที่เงียบใช้ได้ทีเดียว


เพื่ออนาคตที่ดีกว่า...สู้ต่อไป

ใครก็ได้หายาให้หน่อยเร็ววววว!
หลังจากเล่นน้ำทะเลเสร็จพวกผมก็ไม่รอช้านะครับ รีบขี่รถไปท้ายเกาะเพราะอยากรู้ว่าที่นั่นมีอะไร กว่าจะไปถึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ทางแสนขรุขระ และสูงชันทีเดียว แต่พวกผมไปถึงนะ



เหงา เหม่อ ร้อน เหนื่อย

วิวสวยเกินบรรยายครับ

โคลสอัพ ใกล้ๆ

ท่าประจำกลุ่ม...ชื่อไรดีอ่ะ
บรรยากาศบอกไม่ถูกเลยครับ สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกคือ "เรามาถึง" ไม่ถอดใจกลางทางไปซะก่อน แม้จะไม่มีหาดทรายสวยแต่มันก็ถูกแทนที่ด้วยโขดหินแหลมยาวที่ยื่นลงไปในทะเลสีคราม ลมเย็นพักเอื่อยแม้จะร้อนแต่ผมกลับชอบนะ(คนเดียวหรือป่าวก็ไม่รู้)นั่งได้ซักพักก็คงถึงเวลาเตรียมตัวกลับ กทม.แล้ว ระหว่างทางด้วยความเร็วสูงรถคันของผมล้มซะงั้นแต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก ต่างจากเพื่อนของผมที่ล้มนำไปก่อนแล้ว ถลอกปอกเปิกดูไม่ได้ทีเดียว(ดีนะที่รถไม่เป็นอะไร :P )แต่ทริปครั้งนี้ผมกลับสนุกกับมันมากเลยนะครับ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แดดจะร้อน ที่นอนจะไม่มี หรือรถจะล้ม พวกเราก็สนุกกับมันได้เสมอนะผมว่า...

ลาก่อนแต่ไม่ลาจากนะ...เสม็ด